ใครเคยเป็นบ้าง ตื่นเช้ามารีบๆ จะออกไปทำงาน วันตื่นสาย วันมีประชุมเช้า หรือวันต้องรีบไปเข้างานแต่เช้า  รถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติดขึ้นมาดื้อๆ งอแงซะอย่างนั้น 

งั้นวันนี้เราจะมาคุยแบบง่ายๆ ไม่เจาะลึกถึงรายละเอียดจนเกินไป มาบอกวิธีคร่าวๆ ที่พวกเราสามารถตรวจสอบกันได้เองแบบง่ายๆ อาการคร่าวๆ กัน

แบตเตอรี่ 

แบตเตอรี่รถหากใช้งานมามากกว่า 2 ปี (หรือใช้รถน้อยมากๆในแต่ละเดือน) เป็นไปได้ว่า แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ แบตเตอรี่อ่อน แบตเตอรี่หมด ขั้วแบตเตอรี่หลวม หรือขั้วแบตเตอรี่เป็นขี้ตะกรัน อาการของแบตเตอรี่อ่อนคือ สตาร์ทรถแล้วมีเสียงแชะๆ แล้วค่อยๆเงียบไป จนสตาร์ทไม่ติด หรือเวลาบิดกุญแจก่อนสตาร์ทแล้วเรือนไมล์ไม่มีไฟขึ้น หรือไฟส้มรูปเครื่องยนต์ขึ้นโชว์กะพริบถี่ๆ ซึ่งเนื่องจากตัวแบตเตอรี่เก็บประจุไฟฟ้าได้ในระยะเวลาสั้นๆ หรือแบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟเลย อาการแบบนี้ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่

น้ำมันเชื้อเพลิง

หมดหรือมีต่ำกว่าระดับปกติ ซึ่งเป็นเรื่องง่าย แต่หลายคนก็ลืมกัน รถรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันมากๆ หลายคนขี่หลายวันเป็นเวลานาน จนลืมเติมกันไปเลยก็มี สิ่งแรกเราควรดูที่เรือนไมล์ของรถมอเตอร์ไซค์ ว่ามีระดับเท่าไหร่ มีขีดสูงกว่าขีดแดง หรือระดับน้ำมันกะพริบอยู่ที่ขีดล่างรึเปล่า แต่ต้องเช็คด้วยว่า เรือนไมล์ตรงเกจ์น้ำมัน แสดงผลระดับน้ำมันตรงกันกับน้ำมันที่มีอยู่ด้วย ถ้าน้ำมันมีแค่ก้นถัง อาจจะทำให้สตาร์ทติดแล้วก็ดับ และสตาร์ทไม่ติดไปเลย รีบไปปั๊มน้ำมันใกล้บ้านหาเติมเต็มๆไปเลยจ้า

• ระบบหัวฉีด หรือระบบของตัวนมหนูคาร์บูเรเตอร์จ่ายน้ำมันเกิดการอุดตัน 
• น้ำมันที่เติมสกปรก หรือน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐานมีการปนเปื้อนหรือมีน้ำผสมลงไป 

ระบบไฟหรือหัวเทียน

เราสามารถสันนิษฐานก่อนว่ามาจากสายไฟขาดเพราะความร้อนสะสมจากการใช้รถมาเป็นเวลานานหลายปีถึงอายุสายไฟข้อต่อต่างๆหรือหนูกัดสายไฟขาด จึงสตาร์ทไม่ติด อาจจะไปกัดสายไฟเส้นที่ไปเลี้ยงระบบไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ บิดกุญแจรถแล้ว อาจจะไม่มีไฟอะไรขึ้นที่หน้าจอเลย และอีกสาเหตุนึง คือ หัวเทียนบอด จึงสตาร์ทไม่ติด เพราะหัวเทียนมีอายุการใช้งาน แต่คนทั่วไป ใช้งานรถมาเป็นเวลายาวนนานโดยไม่ได้เช็ค หรือเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน หรืออาจจะขี่รถ ลุยฝน ลุยน้ำท่วมถนนสูง อาจจะทำให้น้ำเข้าไปในหัวเทียนได้ ทำให้รถดับ สตาร์ทไม่ติด นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักขี่รถหลายคนมองข้ามไป ซึ่งถ้ารถดับขณะขับขี่ลุยน้ำ (ห้ามสตาร์ทในขณะที่รถยังแช่น้ำอยู่) วิธีแก้ไขเบื้องต้น คือ จอดในที่แห้ง ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ค่อยสตาร์ทรถอีกครั้ง