You are currently viewing รู้ก่อนซื้อ! เลือกมอเตอร์ไซค์มือสองอย่างไรให้คุ้มค่า

รู้ก่อนซื้อ! เลือกมอเตอร์ไซค์มือสองอย่างไรให้คุ้มค่า

มอเตอร์ไซค์คือตัวเลือกในการเดินทางลำดับต้นๆ ของประชากรในประเทศไทย เนื่องจากความรวดเร็ว คล่องตัว มีราคาค่างวดที่ไม่แพงมากนัก และสามารถหาซื้อได้ง่าย ทั้งรถใหม่และรถมือสอง

การที่มอเตอร์ไซค์ได้รับความนิยมนี้ทำให้ผู้ขายบางบริษัทมีความคิดที่จะเอาเปรียบผู้ซื้อ โดยการหลอกขายของคุณภาพไม่ดีให้หรือที่เรียกว่า “ย้อมแมว” ซึ่งสำหรับคนที่มีประสบการณ์และคลุกคลีกับรถมอเตอร์ไซค์อยู่ตลอด คงสามารถตรวจสอบได้อย่างไม่ลำบาก แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เชี่ยวชาญหรือไม่มีความรู้ในด้านมอเตอร์ไซค์อาจจะเป็นปัญหาสำคัญในอนาคตได้ และในวันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์มือสองให้ได้ของที่คุ้มค่าและไม่โดนหลอกครับ

  1. รูปแบบของรถตรงกับการใช้งานและความชอบขนาดไหน

    ควรพิจารณาถึงการใช้งานเป็นหลัก เช่น ถ้าใช้ในการขนของ อาจจะเลือกรถที่สามารถรับน้ำหนักได้มาก มีโครงสร้างและช่วงล่างที่ดีเหมาะสมต่อการรับน้ำหนัก หรือถ้าขับขี่เป็นประจำทุกวันและมีระยะทางไกล อาจจะเลือกรุ่นที่ประหยัดน้ำมัน นั่งสบาย และพอที่จะทำความเร็วได้ดีในระดับหนึ่ง

    นอกจากรูปแบบการใช้งานแล้ว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาก็มีความสำคัญเช่นกัน การได้รถที่ชอบนั้นก็อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะสามารถทำให้ใช้รถต่อไปได้ในระยะยาว

  2. ผู้ขายต้องมีความน่าเชื่อถือ

    ความน่าเชื่อถือของผู้ขายนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีที่ซื้อกับร้าน ควรมีหน้าร้านชัดเจน มีรถให้เลือกหลายรุ่น พนักงานขายมีความรู้ สามารถตอบคำถามรวมไปถึงให้คำแนะนำได้ รถที่ขายได้รับการตรวจสภาพ ได้รับการรับรองและมีบริการหลังการขาย

    แต่หากเลือกซื้อจากบุคคล ก็ควรจะตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนของเอกสารต่างๆ ว่าอยู่ครบหรือไม่ เล่มทะเบียน ภาษี และ พรบ. ล้วนเป็นเอกสารสำคัญและจำเป็นต้องมี รวมไปถึงประวัติในการเข้ารับบริการ เช่นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรืออะไหล่ต่างๆ

    ตรวจเช็คสภาพภายนอก
  3. ตรวจเช็คสภาพภายนอก

    สภาพภายนอกของมอเตอร์ไซค์นั้นควรอยู่ในภาพสมบูรณ์ อาจจะมีร่องรอยจากการใช้งาบ้าง แต่ไม่ควรมีการแตกหัก ร่องรอยจากการล้มหรืออุบัติเหตุ ซึ่งเราจะสังเกตได้จาก

    • ตัวถัง – ไม่ควรมีการต่อเติม ตัดแปลง แก้ไข ไม่มีรอยการเชื่อมใหม่ หากตัวถังมีร่องรอยการพ่นสีใหม่ อาจจะคาดเดาได้ว่าเป็นรถที่ได้รับการซ่อมตัวถังมาแล้ว
    • โช้คอัพ – ต้องไม่บิดเบี้ยว ไม่มีคราบน้ำมันซึมออกมา สามารถใช้งานได้เป็นปกติ กดแล้วคืนตัว
    • ช่วงล่าง – ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อยู่ครบ และตรงตามรุ่นของรถคันนั้นๆ ไม่มีหลุด หลวม และไม่มีร่องรอยของการดัดแปลงแก้ไขใดๆ
    • สายยาง สายไฟ – สายไฟควรอยู่ในสภาพดี ฉนวนสายไม่กรอบหรือละลาย ในจุดที่มีการเชื่อมต่อสาย ควรเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์/วิธีที่ถูกต้อง ได้มาตรฐาน สายยางอยู่สภาพที่ดี ไม่บวม ไม่แข็ง ไม่มีรอยแตกหรือรั่ว ข้อต่อมีความแน่นหนา
    • เพลา โซ่ – ไม่มีเสียงติดขัดในจังหวะที่รถเคลื่อนตัว ไม่สึกหรอหรือสนิมขึ้น
    • ท่อไอเสีย – ควรเป็นของเดิมตามรุ่นของรถ ไม่มีการดัดแปลงทั้งภายนอกและภายใน ระดับของเสียงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่มีคราบของเหลออกมาจากท่อ

    การตรวจสอบภายนอกเบื้องต้นนี้พอจะช่วยให้เราได้ทราบว่า รถคันนี้ผ่านการใช้งานมามากน้อยแค่ไหน และได้รับการบำรุงรักษาที่ดีหรือเปล่า จากนั้นเราก็จำเป็นต้องตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ

  4. ตรวจดูเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ภายใน

    เครื่องยนต์และระบบต่างๆ นั้นมีการทำงานที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการทำงานของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ นั้นถูกต้องหรือไม่ หากไม่สตาร์ทเครื่องยนต์

    • เครื่องยนต์ – นอกจากการตรวจสอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว ก็ควรตรวจสอบการเปลี่ยนอุปกรณ์อื่นด้วย เช่น หัวเทียน หรืออื่นๆ ที่มีอายุการใช้งาน หลังจากสตาร์ท เครื่องยนต์ต้องเดินเรียบ ไม่สะดุด ไม่มีเสียงแปลกๆ ขณะเครื่องยนต์ทำงาน
      ตัวเครื่องภายนอกไม่มีคราบน้ำมัน สนิม ขอบยางตามจุดต่างๆ อยู่ในสภาพดี ไม่มีการรั่วซึม
    • ระบบไฟ – ต้องสามารถใช้งานได้ทุกจุด ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว กรอบไฟต่างๆ ใส สามารถมองเห็นได้ชัดเจน การทำงานของไฟสัญญาณบนหน้าปัดถูกต้อง ถ้าหน้าจอการแสดงผลเป็นแบบอิเล็คทรอนิค การแสดงผลต้องครบถ้วน
    • ระบบเบรก – ระบบเบรคนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ขับขี่โดยตรง
    ตรวจดูระบบเบรก

    ก้านเบรค (มือ) และแป้นเบรค (เท้า) ควรอยู่ในสภาพดี ไม่คดงอ ในการบีบ หรือที่เหยียบนั้นต้องไม่ลึกเกินไป เนื่องจากอาจจะเบรคไม่ทันได้ ระดับของน้ำมันเบรคมีเพียงพอ ไม่ขาด และไม่มีร่องรอยของการรั่วซึม

    นอกจากเครื่องยนต์และระบบต่างๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการทดลองขับขี่ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจได้ว่ารถคันนั้น “เหมาะ” กับเรา หรือการใช้งานมากน้อยขนาดไหน

  5. ทดสอบขับขี่จริง

    ผู้ขายที่ดีควรอนุญาตให้มีการทดลองขับขี่ในระยะทางสั้นๆ ได้ เพื่อเป็นการให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบการทำงานโดยรวมของรถอย่างละเอียดอีกครั้ง

    ในการขับขี่ ล้อหน้าควรจะหันไปในทิศทางเดียวกับแฮนด์ ไม่มีบิดเบี้ยวหรือแกว่ง ระบบเบรคทำงานได้ดี ไม่มีเสียงขณะเบรค

    หากมีข้อสงสัยหลังจากการทดลองขับขี่ ควรสอบถามจากผู้ขายในทันที เพราะการซื้อรถมือสองนั้นก็ถือว่าเป็นการลงทุนก้อนใหญ่เช่นกัน เราควรได้รับในสิ่งที่ดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

เห็นไหมครับ วิธีการเลือกซื้อรถมอเตอร์ไซค์มือสองนั้น ไม่ได้ยากอย่างที่ทุกคนคิดเลย เพียงแค่เรารู้จุดสังเกตต่างๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้ได้รถที่ดี คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวผู้ขับขี่เองด้วยครับ